วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การเลือกโรงเรียนของลูกตามแบบMNSHANG (๓)


ทางเลือกที่สามที่มี คือ โรงเรียนแบบ EP หรือ พวก Bi-lingual

เนื่องจากลูกสองคนเรียนมาแบบนานาชาติ การเีรียนแบบ EP หรือ Bi-lingual จะช่วยลูกได้มากกว่า เพราะลูกได้ภาษาอังกฤษมาก่อน แต่ด้วยการที่ครอบครัวใช้ภาษาไทยมาตลอดที่อยู่ในเวียดนาม ทำให้ลูกฟังและพูดภาษาไทยได้คล่อง

แต่ดิฉันก็กังวลเรื่องการเีรียนระบบ EP ในประเทศไทย เพราะเท่าที่ติดตามดูปัญหาที่เพื่อนๆพ่อแม่คุยกันในหน้าเวบบอร์ดมาหลายปี การเรียนระบบ EP ของไทยมีปัญหาหลายอย่าง โรงเรียนชื่อดัง เช่น อัสสัมชัญ เซ็นต์โยเซฟ กรุงเทพคริสเตียน ล้วนแต่มี EP ด้วยกันทั้งสิ้น แต่การเรียนในระบบ EP ของโรงเรียนเหล่านี้จะค่อนข้างหนัก เพราะโรงเรียนในเครือแคธอลิค หรือคริสเตียน มีชื่อเสียงด้านวิชาการแข็งแกร่ง จึงผสมความแข็งแกร่งด้านวิชาการ เรียนทั้งแบบไทย และอังกฤษ การเรียนนั้นหนักมากเป็นสองเ่ท่า ดิฉันเคยเจอคนรู้จักหลายคนที่ส่งลูกเรียน EP โรงเรียนดังๆเหล่านี้ หลายๆคนสุดท้าย ต้องโบกมือลา พาลูกไปเรียนอินเตอร์แท้ๆไปเลย เพราะ การบ้านเยอะมาก งานเยอะ ท่องเยอะ และเข้มงวดมาก เด็กๆประสบปัญหา โดนกรอบการเรียนการสอน แบบท่องจำของกระทรวงด้วย เพราะต้องสอบ O-net, NT เช่นกัน จึงต้องรักษามาตรฐานชื่อเสียงของโรงเรียนไว้ ประกอบกับ ต้องเรียนเป็นอังกฤษแบบ English Program เด็กๆจึงเจองานหนักมาก

ปัจจุบันมีโรงเรียนจำนวนมาก หันมาเปิด EP เพราะเรียกค่าเล่าเรียนได้สูง แม้แต่โรงเรียนในเครือสาธิตก็มี EP เช่นกัน แต่โรงเรียน EP ใหม่ๆก็ล้วนแต่ประสบปัญหาเรื่องการบริหารบุคลากรและหลักสูตร เช่นกัน ค่าเล่าเรียนแบบ EP ถือว่าแพงรองลงมาจาก โรงเรียนนานาชาติ ระดับล่างๆ แต่โรงเรียนดีๆ ก็จะหาบุคลากรที่ดีได้ไม่ยาก ยิ่งโรงเรียนที่มีประสบการณ์เรื่อง EP มานาน ผ่านร้อนผ่านหนาว ก็พอจะแก้ปัญหาได้ ณ ระดับหนึ่ง ดิฉันจึงต้องมาศึกษาหลายละเอียดเรื่องโรงเรียน EP ที่เข้าข่ายนี้ เพื่่อเฟ้นหาโรงเรียนที่เหมาะสม และใกล้บ้านให้ลูกๆ กลุ่มสารสาร์ส และโรงเรียนในกลุ่มพระแม่มารี ก็เป็นทางเลือกในกลุ่มนี้ที่ดิฉันสนใจ เพราะใกล้บ้าน และประวัติของโรงเรียนที่ยาวนาน พอเห็นผลงานของเด็กๆที่เรียนจบออกมาแล้ว

โรงเรียนในกลุ่มสารสาร์สนั้น มีหลายโรงเรียน ซึ่งออกจะสับสนว่าต่างกันอย่างไร เช่น สารสาร์สพิทยา สารสาร์สเอกตรา สารสาร์สนวิเทศ พอศึกษาดู เข้าใจว่า สารสาร์สนวิเทศ นั้นเป็นสารสาร์สที่ออกนอกเมือง มีพื้นที่ในการเรียนการสอนกว้างขวาง เท่าที่ดู จะขยายไปสี่มุมเมืองและในเมืองใหญ่ๆ มีสระว่ายน้ำ มีสนามกีฬา ค่อนข้างครบครัน สอนแบบ Bi-Lingual เคยคุยกับพ่อแม่หลายคน และอ่านจากกระทู้ต่างๆ พบว่า ภาษาก็ใช้ได้ แต่ไม่แข็งแกร่งมากนัก ไม่เหมือนการเรียนแบบเอกตรา เพราะเน้นไทย เท่าๆกับอังกฤษ แต่เด็กๆก็น่าจะได้รับการพัฒนาทั้งร่างกาย และการศึกษาไปพร้อมกัน เพราะสถานที่พร้อม การที่สารสาร์สขยายโรงเรียนออกไปนอกเมือง ก็ทำให้มีปัญหาเรื่องครูต่างชาติเช่นกัน เพราะจะหาคนต่างชาติที่พร้อมไปอยู่ที่ไกลเมืองก็ไม่ใช่ง่าย อ่านๆดู ดูเหมือนจะมีปัญหาถูกบ่นเรื่องครูต่างชาติ และภาษาที่ไม่เก่งไปกว่า โรงเรียนแคธอลิคธรรมดาสักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม สารสาร์สนวิเทศ ก็ไม่ได้อยู่ในความสนใจของดิฉัน เพราะบ้านของดิฉันอยู่ในเมือง

ไม่มีความคิดเห็น: