วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การเรียนรู้ด้านภาษาไทยของเด็กชั้นอนุบาล ๓

 ภาพจากอินเตอร์เนต


เรื่องการสอนภาษาไทยให้กับน้องแชงในตอนนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ดิฉันต้องทำอย่างเร่งด่วน  เพราะน้องแชงนั้น ยังอ่านเขียนภาษาไทยไม่ได้เลย  แม้ว่าลูกจะมีความคุ้นเคยกับอักษร ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก เพราะดิฉันให้เล่นการ์ดอักษรตั้งแต่เล็กๆ  แต่ที่ผ่านมาเราไม่ได้เน้น เรื่องการสอนตัวหนังสือ และการอ่านไทย  ดังนั้นน้องแชงจึงเก่งภาษาอังกฤษ มากกว่า ภาษาอื่นๆ  จนได้ัรับความเห็นจากคุณครูว่า  "ดูเหมือนภาษาอังกฤษ จะเป็น First Language ของน้องแชง  เพราะอ่านออก เขียนได้ ฟังคล่อง พูดคล่อง"


เป็นความโชคดีที่ในบ้านของเรา ในครอบครัวของเรา เราใช้ภาษาไืทยโดยตลอด ทำให้แม้ว่าจะมาเติบโตในต่างแดน ลูกสองคนพูดและฟังภาษาไทยเก่งมาก ไม่แพ้เด็กที่โตในเมืองไทยเลย  จึงทำให้สบายใจว่า ลูกคงปรับตัวไม่ยากหนัก หากจะต้องกลับมาเรียนในบ้านของเรา  เพราะสื่อสารกับครูและเพื่อนๆได้คล่อง  เหลือแต่สิ่งที่ดิฉันต้องทำอย่างเร่งด่วน คือการเพิ่มพูนทักษะ การอ่าน และการเขียนของลูก

ในการฝึกเรื่องทักษะเรื่องการฟังภาษาของลูก ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย หรืออังกฤษ  ดิฉันใช้ตัวช่วยที่สำคัญ คือ การอ่านนิทาน และการดูดีวีดี  โดยดิฉันเริ่มต้นจากการให้ลูกชม ดีวีดี สำหรับเด็ก แต่เป็นภาษาอังกฤษ  เช่น  Baby Genius, Leap Frog และ Barney ทุกตอนที่เราซื้อมาให้ลูกดู เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด   โดยเฉพาะบาร์นี่ นั้นสอนลูกหลายเรื่องมาก  และทำให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้  ที่สำคัญคือ เด็กๆใน Barney นั้น สุภาพ และใช้ภาษา สำเนียงอังกฤษที่ไพเราะมาก น้องแชงได้ภาษาอังกฤษ มาจากแหล่งนี้เต็มๆ

ในการฝึกลูกเรื่องภาษาไืทย  ตอนนี้น้องแชงกำัลังติดใจ Magic School Bus เป็นอย่างมาก  แม้ว่าจะดูยังไม่ค่อยรู้เรื่อง เพราะเนื้อหาจะซับซ้อนสักนิด เหมาะกับเด็กประถม แต่ดิฉันก็ซื้อให้ดู  แต่จะใช้ที่เป็นภาษาไทย เพื่อให้ลูกฝึกทักษะการฟัง  เวลาลูกดู ก็จะดูตอนซ้ำๆเพราะไม่เข้าใจ  แต่ก็ดีค่ะ  ฝึกภาษาไทย และซึมซับความเข้าใจเรื่องวิทยาศาสตร์   เวลาเขาสนใจมากๆ ลูกจะมารือ้หนังสือสารานุกรมเด็ก ที่ดิฉันเก็บไว้ให้  มาดู แล้วสอบถาม เป็นการเรียนรู้เรื่องอื่นไปในตัวด้วย ไม่ใช่มาเน้นแต่ภาษาไทยอย่างเดียว  แต่แน่นอนค่ะ  การจะใช้สื่อพวกนี้ในการเรียนการสอน  พ่อแม่ต้องระมัดระวัง อย่าให้ลูกดูนานเกินไป หรือมากเกินไป  กล่าวคือ ไม่ควรดูเกิน ๓๐ นาที หรือ ๑ ชม. แล้วแต่วัย  และควรเลือกสื่อที่เหมาะสมกับเด็กในแต่ละวัย  เพราะหากยากเกินไป เด็กบางคนอาจจะเบื่อ  แต่ในกรณีน้องแชง แม้ว่า Magic School Bus จะยากเกินไป แต่เขาชอบ จึงเลือกให้ดู  นี่ก็ยังซื้อไม่ครบ ยังขาดอีกหลายสิบตอน เหมือนกันค่อยๆซื้อ

ดูจากหนังสือแบบฝึกหัด และหนังสือเรียนภาษาไทยของเด็กเล็ก  ดูเหมือนจะต้องฝึกเด็กดังนี้

  • อ่านเขียนอักษร ก-ฮ ให้ได้ 
  • รู้จัก สระ และวรรณยุกต์  อ่านออกเสียงได้ถูกต้อง   
  • สามารถผสมคำง่ายๆได้ เช่น  กิน กา  พ่อ แม่ ปู่ น้ำ ฯลฯ   ประเภทคำในชีวิตประจำวัน  การเขียนชื่อของตัวเอง  ชื่อของพ่อ แม่ เป็นต้น
  • การเข้าใจคำสั่ง และสามารถปฎิบัติได้ถูกต้อง
  • ความสามารถในการสื่อสาร บอกเล่าเรื่องราว ลำดับเหตุการณ์ได้
  • ฟังและจับใจความได้ ว่าใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร
  • ในโรงเีรียนที่เน้นแบบวิชาการ หรือ เตรียมเด็กเข้าเรียนในแนววิชาการระดับประถม อาจจะสอนไปถึงการเขียนประโยค หรือ การอ่านประโยคง่ายๆ 
เป็นความโชคดีที่ดิฉันได้รับการเอื้อเฟื้อจากเพื่อนๆและญาติมิตรหลายท่าน ที่ช่วงส่งแบบฝึกหัดคัดลายมือบ้าง แบบเรียนบ้าง หรือพวกแบบฝึกหัดติวต่างๆมาให้ลูกสองคนเป็นจำนวนมาก ทั้งทางอีเมลล์  ดาวน์ดโหลด  หรือซื้อมาเป็นเล่มๆ  ก็มี   ทำให้ ดิฉันใช้ข้อมูลเหล่านี้มาฝึกฝนลูกได้ไม่ยาก  ที่ขาดก็คือ วินัยและความอดทนเสียสละของเราผู้เป็นแม่เท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น: