วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

การเลือกโรงเรียนของลูกตามแบบMNSHANG (๒)



ภาพจากอินเตอร์เนต

ทางเลือกที่ดิฉันมีคือ โรงเรียนนานาชาติ ซึงก็ต้องเลือกอย่างระมัดระวังเช่นกัน เพราะในการเรียนการสอนแบบโรงเีรียนนานาชาตินั้น มีหลายระบบ หลายราคา และหลากคุณภาพ ที่สำคัญคือเืรื่องของสังคมของเด็กๆ ในโรงเรียนนานาชาติ ที่อาจจะส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกๆได้ เรื่องแบบนี้ ดิฉันไม่สามารถเขียนอย่างตรงไปตรงมาได้บนหน้าเวบบอร์ด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพ่อแม่หลายๆท่าน แต่เขียนในเวบบล็อกส่วนตัว เป็นความเห็นส่วนตัว เขียนได้ง่ายกว่า

ตอนที่อยู่ในเวียดนาม ดิฉันก็เผชิญกับการตัดสินใจที่คล้ายๆกัน โรงเรียนนานาชาติ ที่สอนในระบบ IB (International Baccalaureate) นั้น เป็นหลักสูตรที่เขาว่ากันว่าดีที่สุดในตอนนี้ แต่ค่าเล่าเรียนก็แพงที่สุดเช่นกัน คือปีละ 4-5 แสนบาท เพราะเท่าที่ดู โรงเรียนที่ใช้หลักสูตรนี้ ต้องมีมาตรฐานเรื่องบุคลากร และสถานที่หลายๆอย่างที่ต้องเอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กๆ แน่นอน เด็กๆที่เรียนในโรงเรียนนี้ จะเป็นเด็กมาจากยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น หรือ ประเทศที่มีรายได้ รวมทั้งเด็กไทยที่มาจากครอบครัวฐานะดี เด็กๆที่มาเรียนในระบบนี้ ก็จะมีบุคลิกนิสัยแบบนานาชาติ หากครอบครัวยังคิดจะให้เด็กๆเติบโตแบบเอเชีย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ระบบนี้อาจจะไม่เหมาะ ดิฉันเคยคิดที่จะส่งน้องแชงเรียนโรงเรียนแบบนี้ที่เวียดนาม แต่พิจารณาจากนิสัย พฤติกรรมของเด็กๆในโรงเรียนที่เฝ้าดู รู้สึกไม่ถูกใจ แม้การเรียนการสอนจะดีเลิศ อุปกรณ์จะดีเด่น เรียนสนุก แต่เด็กๆมีความเป็นฝรั่งมากเกินไป แต่หากเราคิดว่า อนาคตของลูกไม่ต้องอยู่เอเชีย และจะ Go Inter โรงเรียนแนวนี้ก็ถือว่า เหมาะสม เพราะเด็กที่เรียนแนวนี้ มักจะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยดังๆทั่วโลก เพราะผลการเรียนถือว่าไ้ด้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับให้เรียนต่อได้ โดยไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเรียนมาจาก IB ที่ใดๆในโลกนี้

โรงเรียนนานาชาติระดับกลางๆ ของเมืองไทย เท่าที่ศึกษาดู ก็จะราคาประมาณ ปีละ เกือบ 3 แสนบาท ไปจนถึงเกือบ 4 แสน แล้วแต่ว่าจะเป็นระบบใด เช่นอังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย ที่ต่างกัน ก็คือ เขาไม่ได้ใช้หลักสูตรแบบ IB แต่ใช้หลักสูตรของประเทศของเขาเอง ซึ่งหากไปเรียนต่อก็จะไม่ยาก แต่ที่จริงแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร หากเรียนหลักสูตรอังกฤษ ก็ไปเทียบวุฒิแบบอเมริกา หรืออาจจะมีการสอบ SAT เสริม ประมาณนี้ แค่ยุ่งยากเรื่องการสอบเทียบวุฒิเท่านั้น ซึ่งเป็นแบบโบราณเขาก็ทำกันแบบนี้ หากโรงเรียนที่ค่าเทอมแพง ก็ใช้ครูวุฒิดีๆ แต่หากโรงเรียนถูกๆ ก็อาจจะได้คนไม่มีมาตรฐานมาสอน แต่โรงเรียนในเกรดนี้ ปัญหาแบบนี้จะไม่มาก


โรงเรียนนานาชาติในระดับล่างๆ คล้าย ๆ Bi-lingual จะ แพงกว่า EP ไม่มาก แต่เื่ท่าที่ศึกษาดู คือระบบการเรียนการสอนจะไม่ค่อยนิ่ง บางปีดี บางปีไม่ดี เพราะคุณภาพของครูไม่ค่อยนิ่ง เนื่องจากค่าเล่าเรียนถูก ทำให้สรรหาคุณภาพบุคลากรได้ยาก ครูที่ได้มักเป็นครูต่างชาติในเอเชีย หรือครูฝรั่งที่อาจจะไม่มีประสบการณ์ หลายๆแห่งอาจจะต้องเปิดในทำเลที่ห่างไกลในเมือง ซึ่งคนอยู่เมืองแบบดิฉันจะไม่มีความเพียรที่จะไปไกลกว่าปากซอยบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม เท่าที่เีทียบค่าเล่าเรียนโรงเรียนนานาชาติแบบไทยๆ กับ EP ราคาอาจจะแพงกว่ากัน ปีละ ๒๐-๓๐ เปอร์เซ็นต์ คือ ประมาณ แสนกว่าบาท ถึงสองแสนกว่าบาท ซึ่งสำหรับดิฉัน ก็ยังถือว่า แพงเกินไป ไม่คุ้มค่า เท่าไหร่

ดังนั้น การส่งลูกเรียนโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทย จึงไม่ใช่ทางเลือกของดิฉันในเวลานี้ แต่หากต่อไป ก็ไม่แน่

ไม่มีความคิดเห็น: