วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รักอย่างไร...ให้พอดี



ชีวิตคู่นั้น เปรียบเหมือนปลูกต้นไม้สองต้น หากปลูกใกล้กันเกินไป รากของต้นไม้สองต้นนั้น ก็จะมีโอกาสพันกัน หรือแย่งอาหารกัน ทำให้ทั้งสองต้น ไม่เติบโตเท่าที่ควรเป็น ไม่แข็งแรง เหมือนชีวิตครอบครัว ที่สามีภรรยา ต่างติดหนึบ เป็นเจ้าเข้าเจ้าของกัน ตามหึง ตามหวง และตามจิก ก็จะทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่เติบโต ไม่มีเวลาไปพัฒนาตนเอง ไม่มีเวลาในการเดินทางตามความฝันของตน

แต่หากต้นไม้สองต้นนั้น ต้นนึงไม่สามารถยืนหยัดด้วยตนเอง ต้องเป็นกาฝาก เกาะอีกต้นหนึ่งไป เพื่อให้อยู่รอด ไม่ช้าไม่นาน ต้นใหญ่ก็จะถูกแย่งน้ำแย่งอาหารไปจนเหี่ยวตาย ล้มท้ังยืนเช่นกัน เหมือนสามีภรรยา ที่ฝ่ายหนึ่งรับหน้าที่ ทำงานหนักอยู่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายนึงมีแต่มาตักตวงเรียกร้อง อย่างเห็นแก่ตัว บางครอบครัวหนำซ้ำ ยังพาเพื่อนฝูง หนี้สิน ญาติพี่น้อง มาสูบเลือดอีกฝ่ายนึงแต่ประการเดียว ครอบครัวก็จะอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน

หรือต้นไม้สองต้น ต้นไม้ต้นนึง เป็นต้นใหญ่ กิ่งใหญ่ใบหน้า แผ่ปกคลุมบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้อีกต้นนึง ไม่ได้รับแสงสว่าง ไม่ช้า ต้นที่ถูกบดบังแสงแดด ก็อาจจะเหี่ยงแห้งตายเช่นกัน เพราะถูกปกป้องบดบังความร้อน จนเกินพอดี

หรืออาจจะเป็นต้นไม้ใหญ่สองต้น ที่ปลูกห่างกันมาก จนแทบจะคนละพื้นที่ ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างโตในอาณาจักรของตัวเอง ไท้ได้พึ่งพาอาศัยกัน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างไป อยู่ไกลเกินกว่าจะเชื่อมโยง ช่วยเหลือ พึ่งพิงกันได้

การเลือกคู่ชีวิตนั้น จึงเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต้องมีมากกว่า คำว่า "รัก" คือ ต้องดูให้ครบถ้วน ก่อนที่จะร่วมหัวจมท้าย เลือกใครสักคน จะมาใช้ชีวิตร่วมกัน กล่าวคือ ต้องมี

๑ สมศรัทธา มีศรัทธาเสมอกันหนักแน่เสมอกันปรับตัวเข้าหากันลงได้

๒ สมสีลา มีศีลเสมอกัน คือความประพฤติจรรยา มารยาท พื้นฐานการสอดคล้องกันไปได้

๓ สมจาคา มีจาคเสมอกัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โอบอ้อมอารี มีใจกว้างพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่น

๔ สมปัญญา ปัญญาสมกัน รู้เหตุรู้ผลเข้าใจกันอย่างน้อยพูดกันรู้เรื่อง

หากไม่สมบูรณ์ตามนี้ ครอบครัวก็ย่อมมีปัญหาค่ะ ไม่มากก็น้อย แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ตราบใดที่เรายอมรับในความแตกต่าง และพยายามปรับตัวเข้าหากัน




ไหนๆก็เล่าเรื่องชีวิตคู่แล้ว ดิฉันอยากแบ่งปัน เรื่องการ "หาคู่" ไว้ด้วย เผื่อผปค.ที่มีลูกสาว จะได้ลองใช้เทคนิคนี้ดู เพื่อการมีชีวิตครอบครัวที่ดีงามของลูกๆ

ตอนดิฉันเป็นวัยรุ่น คุณตาของดิฉัน และอจ.สอนภาษาจีนท่านนึง ที่เป็นผู้ชาย ท่านสอนวิธีเลือกสามีไว้ค่ะ ท่านบอกว่า ให้เลือกผู้ชายที่รักตัวเอง รักอย่างไร... คือ ไม่ทำอะไรที่ทำอันตรายกับสุขภาพตัวเอง และไม่มีพฤติกรรม ทำลายอนาคตของตัวเอง คือ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน ออกกำลังกาย ไม่เล่นการพนัน นี่เป็นประการที่หนึ่ง หากเจอใครที่ ไม่รักตัวเอง ก็ขอให้หลีกเลี่ยงไป เค้าไม่รักตัวเอง ก็ยากที่จะรักคนอื่น

เมื่อเจอคนที่รักตัวเอง ไม่ทำลายตัวเอง ท่านก็แนะนำว่าให้ดูเรื่องที่สอง คือ ต้องเป็นคนกตัญญู รักพ่อแม่ และ รู้บุญคุณคน คนที่รักครอบครัว รักพ่อแม่ เมื่อเค้ามีครอบครัวตัวเอง เค้าย่อมรักครอบครัวตัวเองด้วย

ประการที่สามที่ต้องดู คือเป็นคนที่รักงานของตัวเอง ไปทำงานทุกวัน ขยันทุ่มเท และมีความเจริญก้าวหน้าในงาน หากเจอคนบ่นงาน บ่นลูกน้อง บ่นลูกค้า อันนี้คงไม่ใช่คนรักงาน ให้หลีกเลี่ยง เพราะคนแบบนี้ไม่เจริญก้าวหน้า

ประการที่สี่ คือ เป็นคนที่มีเมตตา มีน้ำใจ อย่างมีสติ พร่ำเพรื่อไปก็ไม่ดี ใครขอก็ให้หมด ก็ทำให้ครอบครัวมีปัญหาได้ แต่ หากแล้งน้ำใจขี้งก ก็ลำบากค่ะ ต้องหาแบบพอดีพอดี ต้องเทสต์ดูว่า แบบไหนจะเหมาะกับเรา

และที่สำคัญคือ ต้องเป็นคนดีค่ะ รักษาคำพูด และไม่ทำผิดศีล5 คนที่รักษาคำพูด รักษาสัจจะวาจา ย่อมเป็นเกราะคุ้มกันเขาจากสิ่งที่ไม่ดี และบุญกุศลของเขา ย่อมแผ่ไปถึงลูกหลานค่ะ

ดิฉันจำได้คุณตาคุยเรื่องนี้ ตอนที่ดิฉันอยู่ม.4 ก่อนที่ท่านจะเสียไม่นาน อจ.ที่สอนภาษาจีน คุยเรื่องนี้ ก่อนที่ดิฉันจะไปเรียนต่างประเทศ สิ่งที่ท่านทั้งสอนเรา เป็นเรื่องที่ดิฉันใช้ในการ เลือก "ผู้ชาย" ที่จะมาเป็นคู่ สังเกตเหมือนกัน เวลาเจอคนคุณสมบัติไม่ครบนี่ คบกันไม่ได้นานหรอกค่ะ มันไม่มีความสุขจริงๆ แต่ในวันที่เจอคนที่ "ใช่" นี่ ชีวิตจะราบรื่น การงานก็รุ่งเรือง เพราะเราไม่ต้องเครียดกับเรื่องครอบครัวที่มีปัญหาโน่นๆนี่ๆ ไม่หยุดหย่อน ลองดูนะคะ ไว้สอนลูกดู เมือ่ถึงเวลาอันควร

ไม่มีความคิดเห็น: