วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

ตกผลึก...จากสัมมนา เคล็ด (ไม่)ลับลงทุนอย่างไรให้ได้ 100 ล้าน (10)


ต่อมาเป็นสูตรสำหรับคนที่กลัวเรื่องความเสี่ยงแบบสุดๆ  เราก็จะไม่ค่อยกล้าลงทุนในกองทุนที่หุ้นที่ผันผวน คงได้แต่เกาะแกะกับพันธบัตรและตราสารนี้   ซึ่งให้ผลตอบแทนต่ำ   คือเพียงปีละ  5.27%  ซึ่งมีความเป็นไปได้  แต่การลงทุนแบบความเสี่ยงต่ำ เราก็ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น คือ ปีละ 30,000 บาท และลงทุนเพิ่มปีละ 10%  ไปจนครบ 30 ปี  ในปีที่ 30 เราจะมีเงินรวมประมาณ 100 ล้านบาท




ในเคสต่อมา จะเป็นเคสของคนที่อายุ 30 กว่ามี  มีเวลาทำงานจนถึงเกษียณ ประมาณ  20 ปี ซึ่งเข้าใจว่า เพื่อนๆใน FB จะอยู่ในเคสนี้ เป็นจำนวนมาก  นี่คือสูตรการลงทุน  100 ล้านของเพื่อนๆค่ะ  

สูตรที่ 1



ในสูตรนี้  เรามีเวลาลงทุนเพียง 20 ปี  และเราต้องการมีเงิน 100 ล้านบาทในวัยเกษียณ  เราต้องออมเพิ่มเป็นเดือนละ 40,000 บาท แล้วเราต้องลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทน มากกว่า 11.61% ต่อปี  อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 20 ปี    ในสิ้นปีที่ 20 เราจะมีเงิน 100 ล้าน  แต่ถ้าเราออมต่อไป เพราะเรายังทำงานได้อีก หรือ มีรายได้ทางอื่น  เราก็จะมีเงิน 420 ล้าน ในสิ้นปีที่ 30 

จะเห็นว่า เมื่อเรามีเวลาลงทุนเหลือน้อยลง   เราต้องออมหนักขึ้นเรื่อยๆ  และต้องลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อผลตอบแทนที่สูง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมือ่เรายิ่งอายุมากขึ้น เราจะมีความสามารถในการเสี่ยงน้อยลง   เพราะเรามีเวลาทำงานสร้างรายได้น้อยลง  การเริ่มต้นออมให้เร็วที่สุด ในวัยที่สามารถทำงานได้  จึงเป็นความจำเป็น

หากเราอยู่ในวัย 40 กว่า ถึง 50  เราอาจจะต้องออมเดือนนึงแสน ถึงสองแสนบาท  และ ควรวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ  ต้องแบ่งการลงทุน เป็นระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว  และ ลงทุนแบบที่ต้องมีความรู้ และเสี่ยงบ้าง ต้องหาจังหวะการลงทุน เพื่อเราจะได้มีโอกาสเข้าใกล้เป้าหมาย 100 ล้านบาทได้  ซึ่งยิ่งจำเป็นที่ต้องหาที่ปรึกษาการลงทุน จัดพอร์ตให้เหมาะสมค่ะ  



จากตารางนี้ เราจะเห็นว่า หากเรามีเวลาในการออมการลงทุนเหลือเพียง 10 ปี  หากเรามีออมเพียง เดือนละ 10,000 หรือ 20,000 บาท หรือ 3-4 หมื่นบาทตามลำดับ  เราต้องลงทุนแบบที่ต้องได้ผลตอบแทนปีละ  50-80%  เลยทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย หรืออาจจะเป็นไปได้ยากมาก     ดังนั้น เราต้องออมเป็นหลักแสนค่ะ และลงทุนในกองทุนหุ้น แบบเต็มแม็ก  ถึงจะมีโอกาสถึงเป้าหมาย

แต่อาจจะมีกรณีเหมือนกันที่บางคนมีที่ดิน มีทรัพย์สินที่สะสมไว้ ในต้นทุนต่ำ เกิดรถไฟฟ้าตัดผ่าน หรือ เป็นที่บูม ก็สามารถมีรายได้พอกพูนแบบหลายเท่าตัวได้ แล้วแต่จังหวะและโอกาสค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น: