วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ห้องเรียนแห่งอนาคต (ุุึ7)








การที่จัดการเรียนการสอนแบบนี้ได้นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ บุคลากร ครู ตอนที่เริ่มทำ โครงการนี้ไหม่ๆ ในเทอมแรกๆ นั้น โครงการนี้ ก็ไดรับการต่อต้านจากครู กลุ่มหนึ่งที่เคยชินกับการทำงานแบบเก่าๆ มีตอนหนึ่งที่ ครูใหญ่ของโรงเรียน A.B. Combs Elementary ได้กล่าวไว้ในหนังสือ Leadership in me ว่า 

"สิ่งที่น่าท้าทายและต้องระมัดระวังยิ่งกว่าคื ครูส่วนน้อยต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เพราะความแตกต่างทางความคิด แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่ยินดีที่จะใช้ความพยายาม พวกเขาทำงานแบบเดิมมานานหลายปี "ทำไมต้องเปลี่ยนตอนนี้" ...การต่อต้านจากครูกลุ่มเล็กๆนี้จะบ่อนทำลายความพยายามตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มลงมิอทำ ดังนั้นพวกเขาจึงเรื่มต้นด้วยความระมัดระวัง โดยกำหนดให้ปีแรกเป็นโครงการนำร่อง มีครูเพียงคนเดียวต่อหนึ่งชั้นเรียนเริ่มสอนแนวความคิดเรื่องภาวะผู้นำ โชคดีที่การสอนในปีแรกคืบหน้าไปด้วยดี บรรดาครูสังเกตเห็นว่านักเรียนในโครงการนำร่องนั้นมั่นใจในตนเองมากขึ้น มีปัญหาเรื่องระเบียบวินัยลดลง และมีคะแนนสอบดีขึ้ย ครูที่คัดค้านเสียงแข็งในตอนต้นค่อยๆเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทีละคนๆ" 



นอกจากจะเรื่มต้นเปลี่ยนแปลงโรงเรียนจากโครงการนำร่องแล้วแล้ว การฝึกอบรมบุคลากรในหลักสูตร 7 อุปนิสัย ซึ่งหลังการฝึกอบรมแล้ว คุณครูเหล่านี้ ได้เห็นเองว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นกับชีวิตของท่าน ทั้งด้านหน้าที่การงาน และส่วนตัว รู้สึกว่าตนเองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีระเบียบมากขึ้น มีความผูกพัน เห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น จึงรู้สึกผลอันยิ่งใหญ่ของการใช้หลักการนี้ในการดำรงชีวิต จึงมีความเต็มใจที่จะถ่ายทอด และปลูกฝังอุปนิสัยเหล่านี้ให้แก่นักเรียน นี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โครงการมีความสำเร็จ


ในการที่จะถ่ายทอดลักษณะนิสัย หรือความสามารถให้กับเด็กๆ ผู้สอน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผปค. หรือครูบาอาจารย์ ต้องเป็น ต้นแบบ เป็นแม่พิมพ์ที่ดี ให้กับเด็กๆ คงยากที่จะสอนให้เป็นคนดีสมบูรณ์แบบที่เราต้องการ




ปัจจัยที่สามที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จ คือ ตัวผปค.เอง ทางโรงเรียนได้เชิญผปค.มาหารือ แล้ว รับรู้ัรับทราบในแนวทางการเรียนการสอนแบบใหม่ของโรงเรียน ผปค.ได้รับความรู้เรื่องภาวะผู้นำ และผปค.ก็มีความตื่นเต้น กับ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ บทสนทนาของผปค.แบบปากต่อปาก ทำให้คนในสังคมนั้น ได้รับรู้และตื่นตัวให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ๆ ของโรงเรียน จนแม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐยังต้องให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผลในเทอมแรกๆ ปีแรกๆ ออกมานั้นผลการเรียนและพฤติกรรมของนักเรียนดีขึ้น ย่อมเป็นที่สนใจของเหล่าพ่อแม่ผปค. ที่อยากส่งบุตรหลานมาเรียนในโรงเรียนที่ีมีวิสัยทัศน์ดีเช่นนี้

อีกทั้งผปค.ที่มีลูกๆเรียนที่นี่ เมื่อมีความเข้าใจถึงเรื่องภาวะผู้นำ และวิธีการดูแลลูกๆ ให้เป็นอิสระ ก็จะปรับวิธีการสอน อบรมลูกที่บ้านเช่นกัน เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางของโรงเรียนด้วย จึงยิ่งทำให้ผลสัมฤทธิ์ยิ่งเร็วขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น: