วันพุธที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554

การเตรียมพร้อมทางการเงินสำหรับลูก

ก่อนมีลูก ต้องเตรียมพร้อมด้านการเงินอย่างไร 


ก่อนที่ลูกน้อยๆ น่ารักจะลืมตาขึ้นมาดูโลก คงมีเวลาให้พ่อแม่ได้เตรียมพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ โดยเตรียมตัวบำรุงร่างกายของคุณแม่อย่างน้อยก็ 9 เดือน เพื่อให้ลูกน้อยได้มีความสมบูรณ์ให้มากที่สุด นับว่าป็นเวลาที่พ่อแม่ตั้งตารอคอยอยากจะเห็นหน้าของลูกน้อยไวไว ไม่ว่าจะหญิงหรือชายคนไหน คงต้องผ่านจุดเริ่มต้นของความเป็นครอบครัวโดยสมบูรณ์ ด้วยความพยายามที่จะมีเจ้าตัวน้อยมาชื่นชม เพื่อที่จะได้เป็นครอบครัวที่ครบถ้วน พ่อ แม่ และลูก นอกจากการเตรียมพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจแล้ว คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายคงจะต้องเตรียมพร้อมทางด้านการเงินเพื่อที่จะสร้างความ มั่นใจได้ว่า ลูกที่เกิดมาในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะมีอนาคตที่มั่นคง
ขั้นตอนการเตรียมพร้อมด้านการเงินเพื่อลูกน้อย สำหรับครอบครัวที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการมีบุตรมาก่อนเลย ควรจะเริ่มต้นจากการวางแผนที่จะมีบุตรเป็นขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.     เตรียมค่าใช้จ่ายไว้สำหรับการฝากท้อง คลอดบุตร
2.     ประมาณการค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นต่อเดือน จากค่าใช้จ่ายปกติของ ทั้ง 2 คน
3.     เตรียมพร้อมรับกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เช่น ค่านม ค่าพี่เลี้ยง
4.     ตั้งเป้าหมายการศึกษาและเตรียมความพร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ
5.     วางแผนการศึกษา โดยรวบรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ครบถ้วน ทั้งค่าเทอม แป๊ะเจี๊ย ค่าเสื้อผ้า
6.     อย่าลืมสะสมเงินออมไว้ทุกเดือน
7.     นำเงินที่เก็บไปลงทุน เพื่อให้งอกเงย
นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานประจำและได้ส่งประกันสังคมมาอย่างต่อเนี่องไม่น้อยกว่า 1 ปี มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ซึ่งเงินสงเคราะห์บุตรสามารถใช้สิทธิได้สูงสุดสำหรับบุตร 2 คน โดยจะได้รับตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นสวัสดิการจากประกันสังคม กรณีมีบุตร 2 คน ก็ได้เงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่าย 800 บาทต่อเดือน


จัดสรรงบประมาณรายจ่ายสำหรับเด็กวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ 
 
                หนึ่งในสาเหตุหลัก ที่ ครอบครัวสมัยใหม่ตัดสินใจที่จะมีลูกน้อย หรือบางคู่ก็ตกลงกันเลยตั้งแต่ตอนแต่งงานว่าจะไม่มีลูก ส่วนใหญ่มาจากปัญหาค่าครองชีพ บางครอบครัวอาจจะไม่มีคนดูแล พ่อหรือแม่ต้องออกจากงานมาเลี้ยงดูลูกเต็มตัว ซึ่งแต่ละครอบครัวก็จะใช้เงินในการเลี้ยงลูกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฐานะทางการเงิน ว่าจะเลี้ยงลูกอย่างไรให้เติบโตมาพร้อมกับพัฒนาการทางสมองที่ดี สติปัญญาที่ชาญฉลาด พร้อมทั้งให้ได้รับการศึกษาสูงที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะส่งได้
                 สำหรับครอบครัว ที่ กำลังตัดสินใจที่จะมีเจ้าตัวน้อย แต่ไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจะสูงเกินกว่าที่ตั้งงบประมาณไว้หรือ ไม่ ลองพิจารณาค่าใช้จ่ายเบื้องต้นสำหรับเด็กแรกเกิด  ได้แก่ ผ้าอ้อม ขวดนม น้ำยาล้างขวดนม แปรงล้างขวดนม หม้อนึ่งขวดนม เสื้อ ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน ที่อาบน้ำเด็ก แป้ง ยาสระผม สำลี เปล มุ้ง โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็นอย่างต่ำประมาณ 10,000 บาท
               การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายสำหรับเด็กวัยแรกเกิดถึง 3 ขวบ จะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ได้แก่ ค่านม ค่าขนม ค่าอาหาร ค่าของเล่น ค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ค่ารักษาพยาบาล ค่าวัคซีน ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าเสื้อผ้า เฉลี่ยค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาทต่อเดือน หากมีพี่เลี้ยงเด็ก หรือไปอยู่เนอร์สเซอร์รี่ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มประมาณ 3,000-5,000 บาทต่อเดือน หากเด็กกินนมคุณแม่อยู่จะดีมาก เพราะนมที่ดีที่สุดก็คือนมแม่ จะช่วยให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ต่อไป ทั้งนี้ยังช่วยประหยัดค่านมได้อย่างน้อยเดือนละ 2,000-3,000 บาทเลยทีเดียว เมื่อโตขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะซื้อ เปลโยก รถเข็น รถหัดเดิน คาร์ซีท แล้วแต่ความจำเป็นในชีวิตประจำวันของแต่ละครอบครัว
               สำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมานี้ ครอบครัวส่วนมากจะใช้วิธีประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวของพ่อแม่ ทั้งค่าเสื้อผ้า ท่องเที่ยว เครื่องสำอางค์หรือค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอื่นๆ  เพื่อ นำมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับลูก ที่สำคัญคือ พ่อแม่ต้องรู้จักประหยัด รู้จักพอ รู้จักใช้เงิน เพราะยังมีค่าใช้จ่ายที่จะต้องเพิ่มขึ้นอีกในช่วงวัยเริ่มต้นเรียน อย่างเช่น ค่าเทอม ค่าชุดนักเรียน ค่ารถรับ-ส่ง เป็นต้น



ไม่มีความคิดเห็น: