วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

สอนเด็กให้ควบคุมอารมณ์ด้วย Time Out

เขียนแนะนำแม่ท่านหนึ่งในเวบค่ะ จึงเอามาฝากด้วย เผื่อใครสนใจจะนำไปแก้ไขปัญหาพฤติกรรมลูก คุณแม่ท่านนี้มีลูก ๓ ขวบ เพื่งเข้าโรงเรียน และตัวเองก็เริ่มไปทำงาน หลังจากเลี้ยงลูกเองจนลูกเข้าโรงเรียนค่ะ

เห็นใจคุณแม่มากค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ เพราะเด็กในวัยนี้ จะมีช่วงหนึ่งที่จะดื้อมาก พูดอะไรไม่ค่อยฟัง เพราะกำลังลองฝึกต่อต้านค่ะ ประการที่สอง เพื่งเข้าโรงเรียน อาจจะเห็นพฤติกรรมของเพื่อน ที่ทำเช่นนี้แล้วคิดว่าแปลกดี ลองทำดู ประการสุดท้าย คือ การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม คือ แม่ที่เคยอยู่บ้าน ต้องไปทำงาน ไ่ม่มีเวลาใูห้ และลูกก็ต้องจากแม่ไปโรงเรียน ทำให้รู้สึกไม่มีความสุขเล็กๆ เพราะไม่ชิน

5 ความคิดเห็น:

Rattana MNSHANG กล่าวว่า...

การตีหรือการดุด่าลูกด้วยความรุนแรง เป็นเรื่องที่ไม่ควร เพราะเรายิ่งดุ เสียงดัง หรือ ตี จะทำให้ลูกยิ่งอารมณ์เสีย เด็กๆวัยนี้ก็ไม่เข้าใจเรื่องอารมณ์ เขารู้สึกแต่ว่าเขาหงุดหงิด ขนาดเราเป็นผู้ใหญ่ บางทีเราก็ควบคุมอารมณ์ยาก จะไปคาดหวังอะไรกับลูก ดังนั้น สิ่งที่คุณควรทำ คือ คุณต้องเข้าใจว่า ลูกไม่สบายใจ ลูกหงุดหงิด และเขาก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ดังนั้น คุณต้องควบคุมอารมณ์ก่อน

ต่อมา คือ คุณต้องมองดูว่าลูกหงุดหงิด หรือไม่สบายใจเรื่องอะไร เช่น โกรธ ที่ถูกขัดใจ ไม่ได้ของที่อยากได้ เป็นต้น หรือ เสียใจที่ ไม่ได้ของที่อยากได้ ถูกแย่งของ อะไำรแบบนี้

และในวัยนี้ คุณสามารถจัดการสอนลูกให้ควบคุมอารมณ์ได้ โดยใช้วิธี Time Out ใช้ได้กับลูกสองขวบขึ้นไป ค่ะ โดยอุ้มไปที่มุมสงบ เช่น หากในบ้านก็อาจจะเป็นห้องนอน ที่ลูกปลอดภัย แล้วปิดประตูทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียว แต่คุณต้องยืนรอหน้าประตู ลูกร้องอย่างไร อาละวาดอย่างไรก็ไม่เปิดให้ จนกว่าจะครบเวลา ๓ นาที (ขวบละ หนึ่งนาที หากยิ่งโต เวลาที่ต้องอยู่ในห้องก็นานขึ้น) เมื่อครบเวลาก็เข้าไปหาลูก คุยกับลูกว่า รู้สึกดีขึ้นหรือยัง

หากลูกสงบ ก็กอดลูกไว้นิ่งๆสักพัก และบอกลูกว่า แม่รักลูกนะ เมื่อตะี้กี้ลูกทำกิริยา ไม่ดี ทำไม่ได้นะ หากทำอีก แม่ก็จะต้องพาลูกมาสงบสติอารมณ์

Rattana MNSHANG กล่าวว่า...

หากลูกไม่สงบ ก็ทำต่ออีกหนึ่งรอบค่ะ จนกว่าจะสงบลงเอง โดยปกติ เด็กจะสงบลงค่ะ แล้วเราก็คุยได้ว่า เมื่อสักครู่ ลูกโกรธ...ลูกเสียใจที่... เป็นต้น เป็นการสอนลูกเรื่องอารมณ์ ว่าอารมณ์แบบนี้คืออะไร เป็นต้น และนี่คือวิธีที่ลูกจะสงบอารมณ์ได้

หากฝึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ เด็กจะคุมอารมณ์เป็น เวลาแกหงุดหงิด ไม่พอใจ ก็จะหามุมสงบ สงบสติอารมณ์ได้ ควบคุมอารมณ์เป็น ซึ่งเป็นการฝึกอีคิวค่ะ


หากลูกไม่ได้อยู่ในบ้าน เช่นไปอาละวาดนอกบ้าน ก็หามุมสงบที่เราจะอยู่กับลูกได้โดยไม่มีคนผ่านไปมาให้รบกวน เช่น ในรถ ในห้องนำ้ ในสวน เป็นต้น ไม่ต้องดุด่า ปล่อยให้ร้องไห้ อาละวาด จนเหนื่อย พอเราไม่สนใจ เห็นว่าเรียกร้องความสนใจไม่ได้ผล เด็กก็จะหยุดพฤติกรรมเอง

Rattana MNSHANG กล่าวว่า...

การตีเด็ก โดยเฉพาะการตีเด็กเล็ก นั้น เด็กจะไม่เข้าใจค่ะ ว่าคือ การลงโทษ แต่จะตีความว่า พ่อแม่ไม่รัก ดังนั้น จะส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหลายด้าน เด็กบางคนที่มีบุคลิกภาพอ่อนโยน ขี้อ้อน ก็จะกลายเป็นเด็กที่ไม่กล้าแสดงออกถึงความต้องการของตน เป็นเด็กเก็บกดได้ โตขึ้นจะไม่กล้าแสดงความรู้สึก ไม่กล้าแสดงออก กลัวผิด ไม่กล้าคิดอะไรนอกกรอบ ซึ่งเป็นการทำลายอัจฉริยภาพของเด็กค่ะ

เด็กบางคนที่มีบุคลิกเข้มแข็ง เป็นตัวของตัวเอง จะมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ตอบโต้ ทำร้ายกลับ เพราะ เป็นสัญชาตญาณการป้องกันตัวของมนุษย์ จึงทำให้เป็นเด็กไม่เชื่อฟัง เถียง ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหากไม่เห็นด้วย หรือ ถูกต่อต้าน

ดังนั้นการตีนั้น ไม่ใช่วิธีการลงโทษที่ถูกต้องสำหรับเด็กเล็ก

Rattana MNSHANG กล่าวว่า...

แต่การไม่ได้รับความสนใจ ความเฉยเมย การถูกทอดทิ้ง เป็นวิธีการที่เด็กเล็กกลัว ดังนั้นเมื่อเห็นลูกเล็ก แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี ให้มองดูด้วยสายตาเฉยเมย หรือ ไม่สนใจ จนกว่าเขาจะเลิกทำพฤติกรรมนั้น และหากลูกเล่นของที่อันตราย หรืออยู่ในที่ๆอันตรายก็ต้องใช้วิธีเบี่ยงเบนพฤตืกรรม เช่น อุ้มพาออกจากที่นั้น หาอะไรให้ทำแทนค่ะ แล้วลูกจะปรับพฤติกรรมได้


เช่นกรณีของดิํฉัน ไม่กี่วันนี้ น้องเชียร์ลูกคนเล็กไปโรงเรียนแล้ว เดือนแรก ดิฉันสังเกตว่า ตอนนี้เวลาโกรธไม่พอใจ จะร้องไห้เสียงดัง กระโดด กระทืบเท้าไปทั่วบ้าน แล้ว นอนหงายดิ้นถีบขา ปัดแขน เหมือนแมลงสาบ แต่ดิฉันก็แสดงอาการไม่สนใจ จนเขาเห็นไม่ได้ผล เขาก็หยุดค่ะ ปรับแบบนี้ประมาณสองสัปดาห์ ตอนนี้หายแล้ว แต่ดิฉันก็สังเกตเห็นว่า แกมีเพื่อนที่โรงเรียนมีพฤติกรรมแบบนี้ค่ะ ท่านี้เป๊ยบเลย ถามครู ครูก็บอกว่าเด็กคนนี้ นิสัยและพฤติกรรมเป็นแบบนี้จริงๆ แสดงว่า ก็อปปี้มาจากเพื่อน

ดังนั้น เลี้ยงลูกเล็กนี่ต้องสังเกตมากค่ะ หากเจอพฤติกรรมไม่ดี ต้องรีบแก้ทันที ไม่งั้น ติดเป็นนิสัย จะแย่มากเลย

ให้กำลัีงใจนะคะ หวังว่าคงชัดเจน

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตามอ่านข้อความแม่น้องแชงสักระยะค่ะ พอมาเจอเรื่องนี้ก็คิดว่าเป็นประโยชน์กับตัวเองมากเลย ต้องลองไปทำกับลูกเล็กที่บ้านดูบ้าง ตอนนี้จะครบสองขวบแล้ว เวลาโดนขัดใจ จะมีอาการ ร้องเสียงดังไม่หยุด และทำไรก็ไม่ถูกใจแบบนี้แหละค่ะ แต่แม่โอ๋ๆๆๆ จนกว่าจะเงียบ ทีนี้ขอลองวิธีสอนให้เค้ารู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองดูบ้าง

ปล. อยากลองตารางโฮมสคูลของแม่น้องแชงดูบ้างค่ะ ไม่รู้ว่าที่บ้านจะให้ความร่วมมือแค่ไหน พอดีแม่ต้องทำงานนอกบ้าน อยู่กับย่าและปู่น่ะค่ะ