วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

พาลูกเที่ยวธรรมชาติ เมืองดาลัด เวียดนาม (จบ)





ไวน์พื้นเมือง ทำจากข้าว คงเหมือนพวกอุ ที่บ้านเรา




ป่าสนที่อุดมสมบูรณ์


ไม่มีอะไรทำ เลยเล่นขุดดินไป


ลูกสน

Tuyen Lam Lake


ทะเลสาบ Tuyen Lam  เป็นทะเลสาบใหญ่นอกเมืองดาลัด เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญสำหรับการเกษตรของเมือง  มีการสร้่างเขื่อน เพื่อกั้นน้ำในบริเวณนี้  เพื่อให้มีน้ำสำหรับการเกษตรตลอดฤดูแล้ง  การเที่ยวบริเวณนี้ จึงเป็นล่องเรือเพื่อชมทะเลสาบ   และชมทิวทัศน์ของป่าสนเขา    มีการสร้่างโรงแรม รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศบริเวณรอบๆทะเลสาบนี้หลายโครงการค่ะ  และสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนี้ คือ เน้นการทำกิจกรรม เช่น ขี่ช้างชมป่า  พายเรือ ปิคนิค ถีบเรือ  ทานอาหาร ชมการแสดงพื้นเมือง และดื่มไวน์พื้นเมือง

สำหรับดิฉัน รู้สึกไม่ค่อยน่าสนใจ เพราะมีช้างไม่กี่ตัว  และราคาค่าขี่ก็แพงมากคือ ชมละ พันกว่าบาท  และต้องรอคิวกัน เป็นชม.  หากไม่ขี่ช้างก็ไม่มีอะไรจะทำ  แต่หากบริษัท มาจัดกิจกรรม  เล่นเกมส์  สัมมนา ก็จะเป็นที่ๆเหมาะมากเลย

พาลูกเที่ยวธรรมชาติ เมืองดาลัด เวียดนาม (11)

คฤหาสน์หลังงาม บนเขา

วิวตัวเมืองดาลัด ถ่ายจากหน้าต่างห้องที่โรงแรม

ลิฟต์โบราณโรงแรมที่พักค่ะ สวยมากเลย แบบฝรั่งเศส

ห้องโถงที่โรงแรมค่ะ ได้บรรยากาศฝรั่งเศสมาก  Dalat Du Parc

วัดที่สวยงามและศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งค่ะ






โรงแรม ๖ ดาว Sofitel Dalat Palace มีสนามกว้างใหญ่ สนามกอล์ฟ ทำเลเยี่ยม



เที่ยวดูฟาร์มดอกไม้



ดูการจัดการฟาร์มดอกไม้เล็กๆแห่งหนึ่ง



เป็นวัดที่สะอาดและสงบมากเลยค่ะ





วัดใหม่แห่งหนึ่ง สร้างเพื่อประดิษฐ์สถานดวงพระเนตรของพระพุทธเจ้า





วิลล่า รีสอร์ต เปิดใหม่ ริมทะเลสาบ Tuyen Lam Lake



ฟาร์มดอกไม้และพืชผัก ที่เห็นได้ทั่วไปในดาลัด





สถาปัตยกรรมในเมืองดาลัด


สถาปัตยกรรมในเมืองดาลัดนั้น เป็นมีความผสมผสานของกลิ่นอายตะวันตก ตามวัฒนธรรมฝรั่งเศส และแบบเวียดนาม  ในเมืองเต็มไปด้วยโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แบบฝรั่งเศส  และมีวัดแบบพุทธนิกายมหายานด้วย  ดาลัด ได้สมญานามว่า เป็นเมืองแห่งฤดูใบไม้ผลินิรันดร  กล่าวคือ มีอากาศแบบฤดูใบไม้ผลิ ไม่หนาว ไม่ร้อน และเต็มไปด้วยความเขียวขจีของป่าสนเขา และสีสรรงดงามของดอกไม้นานาพรรณ ตลอดทั้งปี  จึงเป็นสถานที่ๆ ชาวฝรั่งเศสในยุคอาณานิคม นิยมมาพักผ่อนตากอากาศ และปลูกฝังวัฒนธรรมของตนไว้ที่นี่   เมืองเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วเมือง จึงจะเห็นคฤหาสถ์ วิลล่า หรือกระท่อมเล็กแบบแบบยุโรป  มีบ้านแบบเวียดนาม  ปะปนกันไปทั้งเมือง    และในป่า ในเทือกเขา ก็มีหมู่บ้านของชาวพื้นเมือง คือ ชาว Lat และ ชาว Ma ด้วย  เราสามารถไปเที่ยวชมหมู่บ้านของชนเผ่าพื้นเมืองได้ค่ะ คือ Lat Village และ ชาว Ma   แต่คราวนี้ ดิฉันไม่ได้ไปชม    แต่คงน่าสนใจไปอีกแบบ เพราะประเทศเวียดนามประกอบด้วยชนเผ่าพื้นเมืองที่หลากหลายกว่า  ๕๒ เผ่า อาศัยกระจาย อยู่ทั่วประเทศ  

ส่วนอาหารที่เราจะหาเจอง่ายที่สุด คือ อาหารพวก เส้น  เช่น โบ๋นบ่อเว๋  เป็นเส้นขนมจีนกลมๆ  ราดด้วยนำ้ซุปทำจากขาหมู และเนื้อ  เป็นอาหารมาจากเมืองเว๊   อร่อยค่ะ  มีกินกันทั้งเมือง   หรือ อาจจะเป็น วู๋เตี๋ยวห่ายซาน  คือเป็นอาหารพวกเส้น ทำจากแป้งสีเหลือง คล้ายๆบะหมี่ แต่ทราบว่าไม่ได้ใส่ไข่ แต่เป็นแป้งใส่สีเหลือง   นำ้ซุปใสๆ และใส่พวกปลาหมึก กุ้ง หรือ อาหารทะเล  จะกินอาหารแบบฝรั่งเช่น ขนมปัง เค็ก ก็มีค่ะ หาไม่ยาก   หรือ ทานเป็นขนมปังฝรั่งเศสยาวๆ  ยัดไส้แบบหมูยอเวียดนาม  หรือ ตับบด ก็มีขายทั่วเมือง  หรือกินอาหารตามสั่ง เช่น ข้าว ผัดผัก ข้าวผัด ก็มี   ตอนกลางคืน ในตลาด จะมีแผงนั่งยองๆ ซักสารพัด หอยลวก ปูลวก กินกันอร่อยไปเลย  พวกซุปเปอร์มาร์เกต ร้่านขายยา ร้านกาแฟ  มีหมดค่ะ หาไม่ยากเลย

โรงแรมที่นี่ก็มีหลายเกรด ตั้งแต่ 5-6 ดาว  ในกลุ่ม โซฟิเทล  ราคาคืนละ ๒๐๐ กว่าดอลลาร์สหรัฐ  หรือ ไปจนถึงสองดาว  อยู่ห้องแถว ราคาคืนละ ๒๐ กว่าดอลลาร์ก็มี  จะอยู่แบบกระท่อม ตามภูเขา หรือที่โรแมนติก เพื่อมาฮันนีมูนก็ได้  พอค่ำๆก็ไม่มีอะไรทำ  อยู่กันแบบเราสองคน โรแมนติก  หรือจะอยู่ในเมือง มีคาเฟ่  มีคาราโอเกะ เดินเล่นชมเมือง จนมืดค่ำ ก็ได้  เลือกทำเล เลือกราคา ได้ตามชอบใจ

พาลูกเที่ยวธรรมชาติ เมืองดาลัด เวียดนาม (10)










Museum of Biology


สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของคนพื้นเมือง  เป็นเหมือนศูนย์วิจัยพันธุ์พืชและสัตว์ในดาลัด และมีการทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ด้วยสัตว์สตาฟ   ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจมากมายนัก แต่ที่แวะมา เพราะสนใจในตัวอาคารค่ะ เพราะเป็นโบสถ์เก่า โบราณ  ทำด้วยศิลาแลง สถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนเนินเขา  ดูแล้วขลังดี เดี๋ยวหารูปเจอ จะเอารูปอาคารมาฝาก ใครชอบดูปราสาทเก่า โบราณแบบยุโรป ที่นี่ก็น่าชมค่ะ

โชคดีที่ลูกสองคนชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์และดูสัตว์ต่างๆ ก็เลยชอบที่นี่ แต่สำหรับแม่อย่างดิฉัน ดูแล้วก็น่าเบื่อหน่อย เพราะทำได้ดี แต่ไม่มีเงินดูแลรักษา  ไม่เสียค่าผ่านประตูค่ะ  ทำให้เสียดายข้าวของและสัตว์ที่สตาฟไว้ ก็จะเสียหายไป